เลี้ยงผึ้ง พึ่งได้

ชุมชนบ้านสาขา ต.ท่าขึ้น อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช

ชาวบ้านสาขา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช บอกว่า ชาวบ้านที่นี่ เลี้ยงผึ้งไว้เป็นดอกเบี้ย เพราะแค่ทำบ้านไม้เล็กๆ ให้เขา แล้วรอเก็บดอกเบี้ยปีละ 5 ครั้ง ผึ้ง 1 รังได้หวาน 3- 9 ขวดต่อรอบการเก็บ ซึ่งปีหนึ่งเก็บได้ 2 รอบ สร้างรายได้ตั้งแต่หลักหมื่นยันหลักแสน เริ่มแรกทำบ้านเดียวก่อน แต่ช่วงหลังทางสภาผู้นำชุมชนช่วยกันขยายองค์ความรู้ จนปัจจุบันมีคนเลี้ยงผึ้งกว่า 20 ราย สร้างรายได้เสริมให้กับชาวบ้านหลายแสนบาท

“วิชิระ เงินสยาม อายุ 66 ปี จากชุมชนบ้านสาขา ต.ท่าขึ้น อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช อาชีพที่ทำเป็นรายได้หลัก คือ ทำสวน ทำไร่ ทำนา ทำทั้งสวนปาล์มและสวนยาง เมื่อก่อนก็ทำไร่แต่ตอนนี้หยุดไป 3 - 4 ปี รายได้เสริมคือเลี้ยงผึ้ง” คุณลุงวิชิระ เงินสยาม กล่าวกับเรา

การเลี้ยงผึ้งที่บ้านสาขาเกิดขึ้นมาราว 50 ปีแล้ว แต่เมื่อก่อนไม่เป็นที่นิยมจากคนในชุมชน แต่พอราคาผลไม้ พืชสวน พืชไร่ราคาตกต่ำ สภาผู้นำชุมชนบ้านสาขาเลยชักชวนชาวบ้านที่สนใจที่ ให้หันมาสร้างรายได้เสริมในช่วงที่ผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ จนปัจจุบันมีเกษตรกรหันมาเลี้ยงผึ้งกว่า 20 คน สร้างรายได้หลายแสนให้กับคนในชุมชน

จุดเริ่มต้นเลี้ยงผึ้งของคุณลุงวิชิระเริ่มจาก “ตอนแรกก็มีเศษไม้เหลืออยู่ข้างบ้านก็เลยลองทำเป็นกล่องลังเพื่อให้เป็นรังผึ้ง 2 หลัง แล้วจากนั้นผึ้งก็มาจับก็เก็บน้ำผึ้งได้ 5 ขวดต่อหนึ่งหลัง พอทำได้ดีก็เลยหาไม้มาต่อทำมาเรื่อย ๆ จนมาถึงทุกวันนี้ เพราะมีรายได้ดี ไม่ต้องลงทุนอะไร แค่ดูไม่ให้มดขึ้นอย่างเดียว”

ราคาขายน้ำผึ้งในปัจจุบันจำหน่ายที่ 300 – 350 บาท ซึ้งผึ้ง 1 รัง จะเก็บน้ำหวานได้ตั้งแต่ 3 – 9 ขวด ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของสวนผลไม้ ชาวบ้านส่วนใหญ่ที่นี่จะมีรังผึ้งอยู่ประมาณ 20 กว่าหลัง สร้างรายได้ต่อคน 20,000 - 60,000 บาทต่อปี ยกเว้นของสวนลุงวชิระซึ่งทำมานานจนในสวนมีราว 100 กว่าหลัง สร้างรายได้หลักแสนได้อย่างสบาย

การเลี้ยงผึ้งในสวนที่นี่ไม่เพียงแต่ช่วยสร้างรายได้เสริมใช้กับเกษตรกรเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เกษตรกรลดปริมาณการใช้สารเคมีในสวนอีกด้วย เพราะผึ้งเหล่านี้ไม่สามารถที่จะอยู่ในพื้นที่ที่มีสารเคมีตลอดเวลาได้ การเลี้ยงผึ้งจึงเป็นอีกแนวทางที่จะสร้างสุขภาพที่ดีให้กับชาวบ้านและชาวสวนที่นี่อีกหนึ่งช่องทาง