สุดเจ๋ง...ชาวบ้านนาดอกไม้ทำปุ๋ยไว้ใช้เองในฤดูกาลทำนาที่กำลังจะมาถึง ตั้งเป้าลดการใช้สารเคมีในนาข้าว
- เรื่องเล่าสำนัก 6
- Sep 29, 2019
- 1 min read
Updated: Oct 2, 2019
บ้านนาดอกไม้ ตำบลหนองหญ้าป้อง อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย
เมื่อว่างเว้นจากการทำนา เกษตรกรในหลายพื้นที่ต่างเร่งปรับปรุง เตรียมดิน ด้วยกรรมวิธีการต่าง ๆ เพื่อฟื้นฟูหน้าดิน และเพื่อเป็นการปรับปรุงดินอย่างถูกวิธี และเพื่อเป็นการลดการใช้สารเคมีในนาข้าวฤดูกาลที่จะมาถึง ชาวบ้านที่นี่จึงเร่งทำปุ๋ยอินทรีย์เพื่อนำมาฟื้นฟูดินในนา

ชาวบ้านนาดอกไม้ ต.หนองหญ้าป้อง อ.วังสะพุง จ.เลย หลายสิบคน เร่งช่วยกันขุด พลิก กลบ ปุ๋ยอินทรีย์ที่เริ่มทำกันตั้งแต่ช่วงเดือนมีนนาคมที่ผ่านมา เพื่อใส่น้ำหมักชีวภาพ พร้อมทำให้วัสดุที่นำมาทำปุ๋ยอินทรีย์ย่อยสลายได้ง่าย เนื่องจากที่ผ่านมาเกษตรกรในพื้นที่ต้องคลุกคลีอยู่กับสารเคมี ทั้งยาฆ่าหญ้า ยาฆ่าแมลง รวมถึงปุ๋ยเคมี จากการปลูกอ้อยและพืชเชิงเดี่ยว จากการเก็บข้อมูลและตรวจสุขภาพพบว่าชาวบ้านส่วนใหญ่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ อาการเจ็บป่วย ปวดขา จากการเข้าไปพบแพทย์ได้รับการวินิจฉัยโรคว่ามีสารเคมีปนเปื้อนในร่างกายเกินค่ามาตรฐาน เนื่องจากการใช้สารเคมีในการทำการเกษตร
นางตุ๊ พันยา ผู้ใหญ่บ้าน บ้านนาดอกไม้ กล่าวว่า จำนวนพื้นที่ทำการเกษตรของชาวบ้านรวมแล้วประมาณ 2,009 ไร่ ปี 2560 ที่ผ่านมาชาวบ้านปลูกข้าว 78 ครัวเรือน ครัวเรือนละไม่เกิน 10 ไร่ เพราะแบ่งพื้นที่ไปปลูกอ้อยส่วนใหญ่ มันส่งผลกระทบต่อตัวเอง มีการเจ็บป่วยไปหาหมอ หมอบอกว่าเกิดจากการใช้สารเคมี” จึงมีการทำประชาคมหมู่บ้านและลงมติในหมู่บ้านว่า จะต้องลดสารเคมีในอาหารที่เรากินอยู่ทุกวันลง นั่นคือข้าว พอรู้ว่าเราจะลดสารเคมีในนาข้าวแล้วเราจะเอาอะไรมาทดแทน เริ่มจากการปลุกพืชบำรุงดิน เมื่อเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จเราปลูกถั่วเหลืองก็สามารถปรับปรุงดินได้ หากคนไหนไม่ปลุกถั่วเหลืองก้ไถพวนแล้วนำต้นปอเทืองมาหว่านให้ออกดอกแล้วไถกลบ เตรียมดินเพื่อเพราะปลูกข้าว

ฉลาด บัวระภา ชาวบ้านนาดอกไม้ กล่าวว่า บ้านเราอาชีพหลักคือการทำไร่อ้อยเป็นหลัก มีกรใช้สารพิษมาก แต่ทำนาเป็นส่วนน้อย เลยเกิดแนวคิดว่านาเราทำน้อยแบบนี้ทำไมเราไม่ลดสารพิษบ้าง จากการลงมติของหมู่บ้านมีการเปิดรับสมาชิกผู้ที่สมัครใจเป็นอันดับแรก เพื่อมาทำการเกษตรแบบใหม่ที่แตกต่างจากแบบเดิม เมื่อก่อนทำแล้วปุ๋ยเคมีหว่าน จุดไฟเผาเลย ทำให้ไถง่าย ตอนนี้เอาปอเทืองมาหว่าน พอโตก็ไถกลบ ไถกลบตอซังข้าวด้วย และมาทำปุ๋ย ทั้งสูตรเร่งด่วนและหลายเดือน ก็ได้นำสูตรปุ๋ยนี้กลับไปทำที่บ้านด้วย

การคิดปรับเปลี่ยนเรื่องอาหารที่กินอยู่ทุกวัน ให้ปลอดภัยโดยเฉพาะข้าว คือสิ่งที่สมาชิกในหมู่บ้านเห็นพ้องกันว่า ต้องให้ปลอดสารเคมี หรือมีน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ จึงดำเนินการลงมติชุมชนพร้อมเปิดรับสมาชิกที่สมัครใจเข้าร่วมเริ่มแรกมีจำนวน 35 คน และในปีนี้ 2561 มีสมาชิกต้องกรเข้าร่วมเพิ่มขึ้นเป็น 65 คน ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานกองทุนส่งเสริมสุขภาพ หรือ สสส. วัสดุง่ายๆที่หาได้จากชุมชนท้องถิ่นใกล้เคียงกัน จะถูกนำมาผสมให้เข้ากัน มูลสัตว์โดยเฉพาะโค กระบือ หมู จะถูกนำมาผสมกับรำข้าว แกลบ กากน้ำตาลจากอ้อย และน้ำหมักชีวิภาพ ก่อนที่ชาวบ้านจะช่วยกันเกลี่ยให้เข้ากัน รดน้ำหมัก คลุมด้วยผ้ายาง ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ก็สามารถนำออกมาแบ่งปันกันไปใช้ได้ ปุ๋ยอินทรีย์ที่ชาวบ้านร่วมกันทำ เมื่อกรอกใส่ถุงเสร็จเรียบร้อย ปุ๋ยเหล่านี้จะถูกแบ่งปันกันไปคนละเท่า ๆ กัน เพื่อนำไปใส่ในนาข้าวของตนเอง ในฤดูกาลทำนาที่กำลังจะมาถึง
นางตุ๊ พันยา ผู้นำชุมชนนาดอกไม้ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปุ๋ยที่ชาวบ้านทำร่วมกันนั้นมีส่วนผสมจาก กากหม้อกรองของอ้อย ขี้วัววัว ขี้หมู รำข้าวและกากน้ำตาล นำมาผสมกันในอัตรา 1ต่อ1 ขี้วัว 1 กระสอบ ขี้หมู 1 กรอบสอบ กากหม้อกรอง 1 กระสอบ ขนให้เข้ากันแล้วกากน้ำตาลผสมน้ำมารดแล้วพลิกกลบให้เข้ากันหมักทิ้งไว้แล้วเอาผามาคลุ่มไว้เวลาฝนตกจะได้ไม่ชะล้างสารอาหารของพืชไหลออกไป
ฉลาด บัวระภา ชาวบ้านนาดอกไม้ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อหมักไดที่จะแบ่งปันกันในอัตราคนละเท่า ๆ กัน เพื่อเอาไปใส่ในนาตัวเอง มันแตกต่างจากเมื่อก่อนมาก อันดับแรกๆที่สามารถรับรู้ได้คือต้นข้าวไม่ล้ม เพราะนาผมเป็นพื้นที่นาลุ่มน้ำเยอะ แต่ต้นข้าวมันแข็งและรวงข้าวที่ออกมาจะไม่เป็นโรค เมื่อก่อนจะมีเมล็ดสีดำปน มันแตกต่างจริง ๆ ผมกล้าพูดเลย

Comments